วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2548


ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่  ๒๐  พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๘


   .  รูปกายอุบัติและธรรมกายอุบัติ แห่งพระมหาบุรุษนั้น มีความหมายว่าอย่างไร ?
   ๑.  รูปกายอุบัติ คือความอุบัติในสมัยลงสู่พระครรภ์และในสมัยประสูติจากพระครรภ์
        ส่วนธรรมกายอุบัติ คือการตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ฯ
   ๒.  ข้ออุปมาว่า  ไม้แห้งที่วางไว้บนบก ไกลน้ำ สามารถสีให้เกิดไฟได้ เกิดขึ้น
        แก่ใคร ?  โดยนำไปเปรียบกับอะไร ?
   ๒. แก่พระมหาบุรุษ คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฯ โดยทรงนำไปเปรียบ
        กับสมณพราหมณ์ทั้งหลายว่า สมณพราหมณ์บางพวกมีกายหลีกออกจากกาม
        ใจก็ละความรักใคร่ในกาม สงบดีแล้ว หากพากเพียรพยายามอย่างถูกต้อง
        ย่อมสามารถตรัสรู้ธรรมได้ ฯ
   ๓.  อนุปุพพีกถา คืออะไร ?  ทรงแสดงแก่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยองค์เท่าไร ?  อะไรบ้าง ?
   ๓.  คือถ้อยคำที่กล่าวเรียงเรื่องเป็นลำดับไป ฯ  ด้วยองค์ ๓ ฯ  คือ เป็นมนุษย์ ๑ 
        เป็นคฤหัสถ์ ๑  มีอุปนิสัยแก่กล้าควรบรรลุโลกุตรคุณในที่นั้น ๑ ฯ
   .  สหายของพระยสะ ๔ คน ได้ออกบวชตามพระยสะ เพราะคิดอย่างไร ?
   ๔.  เพราะคิดว่า  ธรรมวินัยที่พระยสะออกบวชนั้นจักไม่เลวทรามแน่แท้  คงเป็น
        ธรรมวินัยอันประเสริฐ คิดดังนี้จึงได้ออกบวช ฯ
   ๕.  พระพุทธดำรัสว่า เราสรรเสริญความคลุกคลีด้วยประการทั้งปวงหามิได้ แต่เรา
        มิใช่ไม่สรรเสริญความคลุกคลีด้วยประการทั้งปวงเลย
ตรัสแก่ใคร ?  ทรงหมาย
        ความว่าอย่างไร ?
   ๕.  ตรัสแก่พระมหาโมคคัลลานเถระ ฯ  ทรงหมายความว่า พระองค์ไม่ทรงสรรเสริญ
        ความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ แต่ทรงสรรเสริญความคลุกคลีด้วยเสนาสนะอันสงัด ฯ
   ๖.  พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุให้ประพฤติตนในการเข้าไปใกล้ตระกูลโดยยก
        พระมหากัสสปะเป็นตัวอย่างไว้อย่างไร ?
   ๖.  ตรัสสอนไว้มาก โดยสรุปทรงสอนว่า ท่านพระมหากัสสปะมีความสำรวมระวัง
        อย่างยิ่ง ทำตนเป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ ไม่ลำพอง ไม่ติดข้อง วางเฉยกับอิฏฐารมณ์
        และอนิฏฐารมณ์ที่ประสบได้ทุกอย่าง ฯ
   ๗.  ธรรม ๓๗ ประการมีสติปัฏฐาน ๔ เป็นต้น มีมรรคมีองค์ ๘ เป็นที่สุด เรียก
        ชื่อว่าธรรมอะไรได้บ้าง ?  เรียกอย่างนั้นเพราะเหตุไร ?
   ๗.  เรียกชื่อว่า อภิญญาเทสิตธรรม เพราะเป็นธรรมที่พระองค์ทรงแสดงด้วย
        พระปัญญาอันยิ่ง และเรียกชื่อว่า โพธิปักขิยธรรม เพราะธรรมเหล่านี้เป็น
        ฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ ฯ
   ๘.  โมฆราชมาณพคิดจะทูลถามปัญหากะพระพุทธองค์ ๓ ครั้ง   แต่มิได้ทูลถาม
        เพราะเหตุไร ?
   ๘.  ในครั้งที่ ๑ ไม่ได้ทูลถามเพราะเห็นว่าอชิตมาณพเป็นผู้ใหญ่กว่า จึงยอมให้ทูลถาม
        ก่อน ในครั้งที่ ๒ และ ๓  ไม่ได้ทูลถามเพราะพระพุทธองค์ตรัสห้ามไว้ ฯ
   ๙.  ในพุทธประวัติกล่าวถึงบุคคลต่อไปนี้คือ โสตถิยพราหมณ์ หุหุกชาติพราหมณ์
        โทณพราหมณ์ ว่าอย่างไรบ้าง ?
   ๙.  โสตถิยพราหมณ์ เป็นพราหมณ์ที่ถวายหญ้าแด่พระมหาบุรุษในเวลาเย็นแห่งวันตรัสรู้
        หุหุกชาติพราหมณ์ เป็นพราหมณ์ที่เข้าเฝ้าทูลถามปัญหากะพระพุทธองค์ขณะ
        ประทับ ณ ภายใต้ร่มไม้อชปาลนิโครธ
        โทณพราหมณ์ เป็นพราหมณ์ที่ทำหน้าที่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุแก่กษัตริย์และ
        พราหมณ์ทั้ง ๘ พระนคร ฯ
๑๐.  พุทธบริษัท ๔ คือ ใครบ้าง ?  ผู้ตั้งอยู่ในเอตทัคคะทางพระธรรมกถึกของแต่
        ละฝ่ายคือใคร ?
๑๐.  คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ฯ
        ฝ่ายภิกษุ คือ พระปุณณมันตานีบุตรเถระ
        ฝ่ายภิกษุณี คือ พระธัมมทินนาเถรี
        ฝ่ายอุบาสก คือ จิตตคฤหบดี
        ฝ่ายอุบาสิกา คือ นางขุชชุตตรา ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น