ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ
นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันพุธ ที่๘พฤศจิกายนพุทธศักราช๒๕๖๐
๑.
สิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์เรียกว่าอะไร?ทรงบัญญัติไว้ เพื่อประโยชน์อะไร?
ตอบ เรียกว่า อภิสมาจาร ฯ
ทรงบัญญัติไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของภิกษุ และเพื
ของพระศาสนา เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ จ าต้องมีขนบธรรมเนียม
และระเบียบไว้รักษาเกียรติ และความเป็นผู้ดีของตระกูล ฯ
๒.
ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ?
ตอบ ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ
๒.
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ
ความเห็นชอบ เคยได้ยิน ได้ฟังมามาก มีปัญญา
๓. รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จ าพระป แม่นย า
ทั้งมีพรรษาพ้น๕ฯ
๓.
ภิกษุเช่นไร ชื่อว่า นวกะ มัชฌิมะ? เถระ ตอบ ภิกษุมีพรรษาไม่ถึง๕ชื่อว่า นวกะ
ภิกษุมีพรรษาตั้งแต่๕ขึ้นไป
แต่ยังไม่ถึง๑๐ต้องประกอบด้วยคุณธรรม ตามพระวินัยชื่อว่า มัชฌิมะ ภิกษุมีพรรษาตั้งแต่๑๐ขึ้นไป
ต้องประกอบด้วยคุณธรรมตามพระวินัย ชื่อว่า เถระ ฯ
๔.
ภิกษุผู้จะไปสู่อาวาสอื่น พึงปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง?ให้ตอบมา๓ข้อ ตอบ พึงปฏิบัติตนอย่างนี้
๑.
ท าความเคารพในเจ้าของถิ่น
๒. แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น
๓. แสดงอาการสุภาพต่อเจ้าของถิ่น ๔. แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น
๕. ถ้าจะอยู่ที่นั่น ควรประพฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถ
๖.
ถือเสนาสนะแล้วอย่าดูดาย
เอาใจใส่ปัดกวาดให้สะอาดหมดจด ตั้งเครื่องเสนาสนะให้เป็นระเบียบ ฯ
๕.
เมื่ออยู่ในกุฎีเดียวกันกับพระเถระผู้มีพรรษามากกว่า
ต
ท่านให้ปฏิบัติอย่างไร?
ตอบ ให้ปฏิบัติอย่างนี้
คือ จะท าสิ่งใด ๆ ควรขออนุญาตท่านก่อ จะสอนธรรม จะอธิบายความ จะสาธยาย จะแสดงธรรม
จะเปิดจะปิดไฟ จะเปิดจะปิดประตูหน้าต่าง ห้ามมิให้ท าตามอ าเภอใจ ฯ
๖.
ธุระเป็นเหตุให้ไปค้างแรมที่อื่นด้วยสัตตาหกรณียะไว้ในบาลีที่กล่าว
มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี๔ อย่าง ฯ คือ
๑.
สหธรรมิกหรือมารดาบิดาเจ็บไข้
รู้เข้าแล้วไปเพื่อพยาบาล ๒. สหธรรมิกกระสันจะสึก รู้เข้าแล้วไปเพื่อระงับ ๓.
มีกิจสงฆ์เกิดขึ้น เช่น วิหารช ารุด ไปเพื่อหาเครื่องทัพ
มาซ่อมแซม ๔. ทายกต้องการจะท าบุญ ส่งคนมานิมนต์ ไปเพื่อบ ารุงศรัทธ
แม้กิจอื่นที่อนุโลมตามนี้ ท่านก็อนุญาต ฯ
๗.
ก
าลังสวดพระปาฏิโมกข์อยู่ มีภิกษุอื่นเข้ามา จะพึงปฏิบั?
ตอบ ปฏิบัติอย่างนี้
คือ ถ้าภิกษุผู้เข้ามาใหม่มีจ านวนมากกว่า ต ตั้งแต่ต้น ถ้ามีจ
านวนเท่ากันหรือน้อยกว่า ส่วนที่สวดไปแล
สวดแล้วให้เธอผู้มาใหม่ฟังส่วนที่ยังเหลือต่อไป ฯ
๘.
อเนสนาได้แก่อะไร?มีอะไรบ้าง?
ตอบ อเนสนา ได้แก่
กิริยาแสวงหาเลี้ยงชีพในทางไม่สมควร ฯ มี๒ อย่าง คือ
๑. การแสวงหาเป็นโลกวัชชะ มีโทษทางโลก
๒. การแสวงหาเป็นปัณณัตติวัชชะมีโทษทางพระบัญญัติ ฯ
๙.
ภัตตุทเทสกะ จีวรภาชกะ และอัปปมัตตกวิสัชชกะ หมายถึงภิกษ ผู้มีหน้าที่อะไร?
ตอบ ภัตตุทเทสกะ หมายถึง ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกภัตตาหาร ตลอดถึง
ของทายกแล้วจัดส่งพระไปให้
จีวรภาชกะ
หมายถึง ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกจีวร อัปปมัตตกวิสัชชกะ หมายถึง
ภิกษุผู้มีหน้าที่แจกเภสัชและบ เล็กน้อย ฯ
๑๐. ภิกษุผู้ได้ชื่อว่า โคจรสัมปันโน ผู้ถึงพร้อมด้วยโคจร
เพราะปฏิ อย่างไร?
ตอบ เพราะเว้นอโคจร๖
จะไปหาใครหรือจะไปที่ไหน เลือกบุคคล เลือกสถานอันสมควรไปเป็นกิจลักษณะในเวลาอันควร
ไม่ไปพร่ าเพรื กลับในเวลา ประพฤติตนไม่ให้เป็นที่รังเกียจของเพื่อนสหธรรมิก
ให้เวลา๓ ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น