ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
พ.ศ. ๒๕๕๒
๑.
พระสาวกสงฆ์ผู้ได้ชื่อว่าอนุพุทธะมีความสำคัญอย่างไร?
ตอบ มีความสำคัญคือพระสาวกสงฆ์จัดเป็นรัตนะประการหนึ่งในรัตนะ๓
ซึ่งเป็นผู้มีศีลและทิฏฐิเสมอกัน ถ้าไม่มีพระสาวกสงฆ์เป็นผู้รู้ธรรมและรับปฏิบัติธรรม
ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าก็ไม่สำเร็จประโยชน์และพระสาวกสงฆ์นั้นได้เป็นกำลังใหญ่ของพระศาสนา
ในอันช่วยประกาศพระธรรม ประดิษฐานพระพุทธศาสนาขึ้นเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนเป็นอันมาก
๒.
พระปัญจวัคคีย์ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกัน
แต่พระอัญญาโกณฑัญญะได้รับยกย่องเป็นปฐมสาวก เพราะเหตุไร?
ตอบ
เพราะพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนและได้รับอุปสมบทก่อนองค์อื่น
๓.
เอหิภิกขุอุปสัมปทาที่ประทานแก่พระปัญจวัคคีย์
และพระยสะต่างกันอย่างไร เพราะเหตุไร?
ตอบ
ต่างกันคือที่ประทานแก่พระปัญจวัคคีย์มีคำว่า เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ
ส่วนที่ประทานแก่พระยสะไม่มีคำว่า เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ
ส่วนที่ประทานแก่พระยสะไม่มีคำว่า เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบ
เพราะพระยสะได้ถึงที่สุดทุกข์แล้ว ฯ
๔.
พระปัญจวัคคีย์องค์ไหนบ้างได้ศิษย์ดีมีความสำคัญต่อพระศาสนา
ศิษย์นั้นชื่ออะไรและเป็นผู้เลิศในทางด้านใด?
ตอบ พระอัญญาโกณฑัญญะ
ได้พระปุณณมันตานีบุตรเป็นศิษย์เป็นผู้เลิศในทางธรรมกถึก
พระอัสสชิได้พระสารีบุตรเป็นศิษย์
เป็นผู้เลิศในทางมีปัญญามาก ฯ
๕.
ชฎิล
๓ พี่น้องต่างละลัทธิของตน บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาเพราะเหตุใด?
ตอบ อุรุเวลกัสสปะ ถือตัวว่าเป็นผู้วิเศษ
แต่พระพุทธเจ้าทรงใช้อิทธิปาฏิหาริย์และอาเทสนาปาฏิหาริย์ทรมานจนถอนทิฏฐิมานะ
ได้ปรีชาหยั่งเห็นว่าลัทธิของตนหาแก่นสารมิได้ ตนมิได้เป็นผู้วิเศษแต่ประการใด
ได้ความสลดใจ จึงทูลขออุปสมบท ส่วนนทีกัสสปะและคยกัสสปะ เห็นพี่ชายถือเพศเป็นภิกษุ
ถามทราบความว่าพรหมจรรย์นี้ประเสริฐ จึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทูลขออุปสมบท ฯ
๖.
พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายพระราชอุทยานเวฬุวันแด่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
เพราะทรงพิจารณาเห็นอย่างไรและทรงถวายด้วยวิธีการอย่างไร?
ตอบ เพราะทรงเห็นว่า
พระราชอุทยานเวฬุวันเป็นที่ไม่ไกลไม่ใกล้นัก แต่บ้านบริบูรณ์ด้วยทางเป็นที่ไปและเป็นที่มา
ควรที่ผู้มีธุระจะพึงไปถึง กลางวันไม่เกลื่อนกล่นด้วยหมู่คน
กลางคืนเงียบเสียงที่จะอื้ออึงกึกก้อง
ปราศจากลมแต่ชนที่เดินเข้าออกสมควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการที่สงัด
และควรเป็นที่หลีกออกเร้นอยุ่ตามวิสัยสมณะ ควรเป็นที่เสด็จอยู่ของพระศาสดาดังนี้
และทรงถวายด้วยวิธีการทรงจับพระเต้าทองเต็มด้วยน้ำ
หลั่งลงถวายพระราชอุทยานเวฬุวันนั้นแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ฯ
๗.
“คนเหล่านี้ทั้งหมดยังไม่ทันถึง ๑๐๐ ปี ก็จักไม่มีเหลือจักล่วงไปหมด
ดูการเล่นไม่มีประโยชน์อะไร ควรขวนขวายหาธรรมเครื่องพ้นดีกว่า” นี่เป็นคำพูดของใครพูดกะใคร?
ตอบ ของอุปติสสมาณพ พูดกะโกลิตมาณพ ฯ
๘.
คำถามว่า
“ข้าพเจ้าจักพิจารณาเห็นโลกอย่างไร
มัจจุราชจึงจักไม่แลเห็น” ใครเป็นผู้ถาม
พระศาสดาทรงพยากรณ์ไว้อย่างไร?
ตอบ พระโมฆราชเป็นผู้ทูลถาม
พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ท่านจงเป็นคนมีสติ พิจารณาเห็นโลกโดยความเป็นของว่างเปล่า
ถอนความตามเห็นว่าตัวของเราเสียทุกเมื่อเถิด
ท่านจักข้ามล่วงมัจจุราชเสียได้ด้วยอุบายอย่างนี้ ท่านพิจารณาเห็นโลกอย่างนี้แล
มัจจุราชจึงไม่แลเห็น ฯ
ศาสนพิธี
๙.
สามัญอนุโมทนากับวิเสสอนุโมทนา
ต่างกันอย่างไร?
ตอบ ต่างกันอย่างนี้ สามัญอนุโมทนา
คือการอนุโมทนาที่นิยมใช้ปฏิบัติกันทั่วไปเป็นปกติ
ไม่ว่างานใดก็ใช้อนุโมทนาอย่างนั้น ส่วนวิเสสอนุโมทนา
คือการอนุโมทนาด้วยบทสวดสำหรัยอนุโมทนาเป็นพิเศษเฉพาะทาน เฉพาะกาล และเฉพาะเรื่อง
๑๐. บท อทาสิ เม อกาสิ เม… และบท อยญฺจ โข
ทกฺขิณา ทินฺนา… ใช้ต่างกันอย่างไร?
ตอบ อทาสิ
เม อกาสิ เม… ใช้ในกรณีที่ศพยังอยู่
อยญฺจ โข ทกฺขิณา ทินฺนา… ใช้ในกรณีทำบุญอัฐิ ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น