วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2545


ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่  ๒๒  พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕
 ๑.    ๑.๑ ปฏิสันถาร คืออะไร ?  มีอะไรบ้าง ?
        ๑.๒ มีประโยชน์แก่ผู้ทำอย่างไรบ้าง ?
 ๑.    ๑.๑ คือการต้อนรับแขกผู้มาถึงถิ่น ฯ   มี ๒ อย่าง
                   ๑) อามิสปฏิสันถาร   ต้อนรับด้วยสิ่งของ
                   ๒) ธัมมปฏิสันถาร     ต้อนรับโดยธรรม ฯ
        . อย่างนี้ คือ
                   ) เป็นอุบายสร้างความสามัคคีและยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน
                   ) เป็นการรักษาไมตรีจิตระหว่างกันและกันให้มั่นคงยิ่งขึ้น ฯ
 .    . วิมุตติคืออะไร ?  วิมุตติ ๒ อย่าง มีอะไรบ้าง ?
        . วิมุตติ ๒ กับวิมุตติ ๕ จัดเป็นโลกิยะและโลกุตตระอย่างไร ?
 .    . คือความหลุดพ้น  มี
                   ๑) เจโตวิมุตติ     ความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งใจ
                   ๒) ปัญญาวิมุตติ  ความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งปัญญา ฯ
        ๒.๒ วิมุตติ ๒ เป็นโลกุตตระอย่างเดียว  
             ส่วนวิมุตติ ๕ เป็นได้ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฯ
 ๓.    ๓.๑ ความเห็นว่า "ถึงคราวเคราะห์ดีก็ดีเอง ถึงคราวเคราะห์ร้ายก็ร้ายเอง" อย่างนี้
             เป็นทิฏฐิอะไร ?  จงอธิบาย
        ๓.๒ คติทางพระพุทธศาสนาต่างจากความเห็นนี้อย่างไร ?
 ๓.    ๓.๑  เป็นอเหตุกทิฏฐิ คือเห็นว่า สิ่งทั้งหลายไม่มีเหตุปัจจัย คนเราจะได้ดีหรือได้ร้าย
             ตามคราวเคราะห์ ถึงคราวจะดีก็ดีเอง ถึงคราวจะร้ายก็ร้ายเอง ไม่มีเหตุปัจจัยอื่น ฯ
        ๓.๒ พระพุทธศาสนาถือว่าสังขตธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ฯ
 ๔.    ๔.๑ อาหารของสัตว์นรก และเปรต คืออะไร ?
        ๔.๒ คนจำพวกไหนเปรียบเหมือนอสุรกาย ในอบาย ๔ ?
 ๔.    ๔.๑ อาหารของสัตว์นรกคือกรรม  ส่วนของเปรตคือกรรมและผลทานที่ญาติมิตร
             ทำบุญอุทิศให้ ฯ
        ๔.๒ คนลอบทำโจรกรรม หลอกลวงฉกชิงเอาทรัพย์ของผู้อื่น เปรียบเหมือนอสุรกาย ฯ
 ๕.    ๕.๑ กุลมัจฉริยะ ตระหนี่ตระกูล คืออย่างไร ?
        ๕.๒  ครูสอนศิษย์  ปิดบังอำพรางความรู้  ไม่บอกให้สิ้นเชิง จัดเข้าในมัจฉริยะข้อไหน ?
 ๕.    ๕.๑ คือหวงแหนตระกูลไม่ยอมให้ตระกูลอื่นมาเกี่ยวดองด้วย    ถ้าเป็นบรรพชิตก็
             หวงอุปัฏฐาก  ไม่พอใจให้ไปบำรุงภิกษุอื่น ฯ
        ๕.๒ ธัมมมัจฉริยะ
 ๖.    ๖.๑ ญาณ ๓ ที่เป็นไปในจตุราริยสัจ  มีอะไรบ้าง ?
        ๖.๒ ญาณ ๓ ที่เป็นไปในทุกขสมุทัยมีอธิบายอย่างไร ?
 ๖.    ๖.๑ ๑) สัจจญาณ  ปรีชาหยั่งรู้อริยสัจ
             ๒) กิจจญาณ  ปรีชาหยั่งรู้กิจอันควรทำ
             ๓) กตญาณ  ปรีชาหยั่งรู้กิจอันทำแล้ว ฯ
        ๖.๒ ๑) ปรีชาหยั่งรู้ว่า นี้ทุกขสมุทัย  จัดเป็นสัจจญาณ
             ๒) ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัย เป็นสภาพที่ควรละเสีย  จัดเป็นกิจจญาณ
             ๓) ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัยที่ควรละๆ ได้แล้ว  จัดเป็นกตญาณ ฯ

 ๗.    ๗.๑ วิญญาณฐิติต่างจากสัตตาวาสอย่างไร ?
        . สัญญาเวทยิตนิโรธกับนิโรธสมาบัติต่างกันหรือเหมือนกัน ?
 .    . ต่างกันอย่างนี้  ภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณเรียกว่า วิญญาณฐิติ 
             ภพเป็นที่อยู่แห่งสัตว์ เรียกว่า สัตตาวาส
        . ต่างกันโดยพยัญชนะ  โดยอรรถเป็นอย่างเดียวกัน  คือท่านผู้เข้าถึงสมาบัติ
             ชนิดนี้แล้วย่อมไม่มีสัญญาและเวทนา ฯ
 ๘.    ๘.๑ ในพระพุทธคุณ บทว่า อรหํ ที่แปลว่า เป็นผู้หักกำแห่งสังสารจักรนั้น กำแห่ง
             สังสารจักร ได้แก่อะไร ?
        ๘.๒ พระพุทธคุณต่อไปนี้มีคำแปลว่าอย่างไร ?
                   ก) สุคโต
                   ข) อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ
 ๘.    ๘.๑ ได้แก่อวิชชา  ตัณหา  อุปาทานและกรรม ฯ
        ๘.๒      ก)  เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
                   ข) เป็นสารถีแห่งบุรุษพึงฝึกได้ ไม่มีบุรุษอื่นยิ่งไปกว่า ฯ
 ๙.    ๙.๑ ในกรรม ๑๒  กรรมที่ให้ผลตามลำดับ ได้แก่กรรมอะไรบ้าง ?
        ๙.๒ อุปฆาตกกรรม มีอธิบายอย่างไร ?
 ๙.    ๙.๑ ได้แก่
                   ๑) ครุกรรม        กรรมหนัก
                   ) พหุลกรรม หรือ อาจิณณกรรม  กรรมชิน
                   ) อาสันนกรรม   กรรมเมื่อจวนเจียน
                   ) กตัตตากรรม   กรรมสักว่าทำ ฯ
        . อุปฆาตกกรรมเป็นกรรมที่แรง ซึ่งตรงกันข้ามกับชนกกรรม และอุปัตถัมภกกรรม
             เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมสองอย่างนั้นให้ขาดไปเสียทีเดียว เช่น เกิดใน
             ตระกูลสูงมั่งคั่ง แต่อายุสั้น เป็นต้น ฯ
๑๐. ๑๐.๑ ในธุดงค์ ๑๓ นั้น ธุดงค์ที่ถือได้เฉพาะกาลมีอะไรบ้าง ?
      ๑๐.๒ การถือธุดงค์ ย่อมสำเร็จด้วยอาการอย่างไร ?
๑๐. ๑๐.๑       ๑) รุกขมูลิกังคะ     ถืออยู่โคนไม้เป็นวัตร
                   ๒) อัพโภกาสิกังคะ ถืออยู่ในที่แจ้งๆ เป็นวัตร ฯ
      ๑๐.๒ สำเร็จด้วยการสมาทาน คือด้วยอธิษฐานใจหรือแม้ด้วยเปล่งวาจา ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น