วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก 2547


ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
.. ๒๕๔๗

   .  กิเลสกามและวัตถุกาม ได้แก่อะไร ?  อย่างไหนจัดเป็นมารและเป็นบ่วงแห่งมาร ? 
        เพราะเหตุไร
?
   .  กิเลสกาม ได้แก่ เจตสิกอันเศร้าหมอง ชักให้ใคร่ ให้รัก ให้อยากได้  กล่าวคือตัณหา
        ความทะยานอยาก  ราคะ ความกำหนัด  อรติ ความขึ้งเคียด เป็นต้น  จัดเป็นมาร
        เพราะเป็นโทษล้างผลาญคุณความดีและทำให้เสียคน ฯ
        วัตถุกาม ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นของน่าชอบใจ จัดเป็นบ่วงแห่ง
        มาร เพราะเป็นอารมณ์ผูกใจให้ติดแห่งมาร ฯ
   .  พระบรมศาสดาทรงแสดงอานิสงส์แห่งวิปัสสนาไว้ในอนัตตลักขณสูตรอย่างไร ?
   .  ทรงแสดงไว้ว่า เอวํ ปสฺสํ ภิกฺขเว สุตวา อริยสาวโก เป็นต้น  ความว่า ดูก่อนภิกษุ
        ทั้งหลาย  อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว  เมื่อเห็นอย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่าย ย่อมฟอกจิต
        ให้หมดจด  เพราะการฟอกจิตให้หมดจดได้ จิตนั้นก็พ้นจากอาสวะทั้งปวง  เมื่อจิต
        พ้นพิเศษแล้ว ก็มีญาณหยั่งรู้ว่า พ้นแล้ว และเธอรู้ประจักษ์ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
        พรหมจรรย์คือกิจพระศาสนาได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเช่นนี้ไม่มีอีก ฯ
   .  ไตรลักษณ์ ที่ว่าเห็นได้ยากนั้น เพราะอะไรปิดบังไว้ ?  ผู้พิจารณาเห็นอนิจจตา
        ความเป็นของไม่เที่ยง ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?
   .  อนิจจตา มีสันตติ ความสืบต่อแห่งนามรูป ปิดบังไว้ ทุกขตา มีอิริยาบถ ความผลัด
        เปลี่ยนอิริยาบถ ปิดบังไว้ อนัตตตา มีฆนสัญญา ความสำคัญเห็นเป็นก้อน ปิดบังไว้ ฯ
        ย่อมได้รับอานิสงส์ คือเพิกถอนสันตติได้ ทำให้เห็นความเกิดขึ้นและความดับไป
        ความไม่เที่ยงแห่งสังขารทั้งหลายด้วยปัญญาอันชอบ ย่อมเบื่อหน่ายในสังขารอันเป็น
        ทุกข์ ดำเนินไปในหนทางแห่งความบริสุทธิ์ ฯ
   .  ความเกิด ความแก่ และความตาย จัดเข้าในทุกข์หมวดไหน ?  โดยรวบยอด ทุกข์ที่
        แสดงในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ได้แก่ทุกข์เช่นไร ?
   .  จัดเข้าในสภาวทุกข์ คือ ทุกข์ประจำสังขาร ฯ
        ได้แก่ อุปาทานขันธ์ ๕ ฯ
   .  จริตของคนในโลกนี้มีกี่ประเภท ?  อะไรบ้าง ?  คนสูงอายุมีความกังวลนอนไม่หลับ
        เพราะคิดห่วงลูกหลานเป็นต้น จัดเป็นคนมีจริตอะไร ? กัมมัฏฐานข้อใดเป็นที่สบาย
        แก่คนจริตนั้น ?
   .  มี ๖ ประเภท ฯ  คือ  ราคะจริต ๑  โทสะจริต ๑  โมหะจริต ๑  วิตกจริต ๑  
        สัทธาจริต ๑  พุทธิจริต ๑ ฯ  มีวิตกจริต ฯ  ข้ออานาปานสติ หรือ กสิณ ฯ
   .  ในอนุสสติ ๑๐  ข้อว่า มรณัสสติ ไม่ใช้ว่า มรณานุสสติ เพราะเหตุไร ?
   .  ที่ไม่ใช้อย่างนั้น ก็เพราะท่านสอนให้ผู้พิจารณาเห็นปรากฏชัดเป็นปัจจุบันธรรม จะได้
        เกิดความไม่ประมาท เป็นผู้แกล้วกล้าไม่ย่อท้อต่อความตาย หากจะไปเหนี่ยวรั้งเอา
        ความตายที่ล่วงมาแล้วยกขึ้นพิจารณา ในบางขณะอาจเกิดความกลัวตายขึ้นก็ได้ ฯ
   .  พระพุทธคุณบทว่า สุคโต นั้น เป็นพระคุณส่วนอัตตสมบัติ และส่วนปรหิตปฏิบัติ
        อย่างไร ?  จงอธิบาย
   .  พระคุณส่วนอัตตสมบัติ คือ เสด็จออกผนวชไม่ย่อท้อ เสด็จดำเนินไปตาม
        อัฏฐังคิกมรรคเป็นมัชฌิมาปฏิปทา  มิได้ทรงกลับคืนมาสู่อำนาจกิเลสที่พระองค์
        ทรงละได้แล้ว  จนบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ  เสด็จไปในที่ใด ก็ทรงไม่มี
        อันตรายใดจักเกิดแก่พระองค์ได้ เสด็จไปกลับได้โดยสวัสดี ฯ
        พระคุณส่วนปรหิตปฏิบัติ คือ เสด็จจาริกไปในสถานที่ต่างๆ เทศนาโปรดมหาชน
        ให้ได้ดวงตาเห็นธรรม ให้ได้รับประโยชน์ทั้งปัจจุบัน อนาคต และประโยชน์อย่างยิ่ง
        คือพระนิพพาน  อนึ่ง ทรงมีพระวาจาดี  คือทรงกล่าวแต่คำที่จริงที่แท้ ประกอบด้วย
        ประโยชน์แก่บุคคลที่ควรกล่าว เสด็จไประงับอันตรายด้วยความอนุเคราะห์เกื้อกูล
        แก่ปวงชน แม้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ทรงฝากรอยจารึก คือพระคุณความดี
        ในโลก ดุจฝนตกลงยังพืชให้เผล็ดผล เป็นประโยชน์แก่คนและสัตว์ผู้พึ่งแผ่นดิน ฯ
   .  กิจ เหตุ และผลของวิปัสสนา ได้แก่อะไร ?
   .  กิจ ได้แก่ การกำจัดความมืดคือโมหะ อันปิดบังปัญญาไว้ ไม่ให้เห็นตามความเป็นจริง
     
  เหตุ ได้แก่ การที่จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่าน
        ผล ได้แก่ การเห็นสังขารตามความเป็นจริง ฯ
   .  วิปัลลาสข้อว่า  วิปัลลาสในของที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข  จะถอนได้ด้วยสัญญาอะไร
        ในสัญญา ๑๐
?  ใจความว่าอย่างไร ?
   .  จะถอนได้ด้วยอาทีนวสัญญา ฯ
        ใจความว่า ภิกษุย่อมพิจารณาอย่างนี้ว่า กายอันนี้แล มีทุกข์มาก มีโทษมาก
        เหล่าอาพาธต่างๆ ย่อมเกิดขึ้นในกายนี้ ฯ
๑๐.  ในมหาสติปัฏฐานสูตร  สติปัฏฐาน ๔ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่ากระไร ?  สติปัฏฐาน ๔ นั้น
       
มีอานิสงส์อย่างไรบ้าง ?
๑๐.  เอกายนมรรค ฯ
        มีอานิสงส์ ๕ ประการ คือ
               . เพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย
               . เพื่อความข้ามพ้นโสกะและปริเทวะ
               . เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส
               . เพื่อบรรลุธรรมที่ควรรู้
               . เพื่อการทำให้แจ้งพระนิพพาน ฯ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น