วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี 2547

ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
.. ๒๕๔๗

   อุปสัมปทา (การอุปสมบท) มี ๓ วิธี  ในปัจจุบันใช้วิธีไหน กำหนดสงฆ์อย่างต่ำ
        ไว้เท่าไร ?
   ใช้ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา  การอุปสมบทด้วยกรรมมีญัตติเป็นที่ ๔ ฯ
        กำหนดสงฆ์อย่างต่ำไว้คือ  ในมัธยมประเทศ ๑๐ รูป  ในปัจจันตชนบท ๕ รูป ฯ
   พระวินัย คืออะไร พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?
   คือ พระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร ฯ
        พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้วย่อมได้รับอานิสงส์คือ ความไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับ                ความแช่มชื่นว่า ได้ประพฤติดีงาม เข้าหมู่สงฆ์ก็อาจหาญ ฯ
   นิสสัยและอกรณียกิจคืออะไร ?   ทั้ง ๒ อย่างรวมเรียกว่าอะไร ?
   นิสสัยคือ ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต  อกรณียกิจคือ กิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ ฯ
        ทั้ง ๒ อย่าง รวมเรียกว่า อนุศาสน์ ฯ
   สิกขา กับ สิกขาบท ต่างกันอย่างไร ?
   ต่างกันอย่างนี้ สิกขา ได้แก่ข้อที่ควรศึกษา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา  สิกขาบท
        ได้แก่ พระบัญญัติมาตราหนึ่งๆ ฯ
   อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติข้อที่ว่า ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำลง มีอธิบายอย่างไร ?
   มีอธิบายว่า ภิกษุสงสัยอยู่ว่า ทำอย่างนั้นๆ ผิดพระบัญญัติหรือไม่ แต่ขืนทำ
        ด้วยความสะเพร่าเช่นนี้ ถ้าการที่ทำนั้นผิดพระบัญญัติก็ต้องอาบัติตามวัตถุ ถ้าไม่ผิด
        ก็ต้องอาบัติทุกกฏเพราะสงสัยแล้วขืนทำ ฯ
   คำว่า มาตุคาม ในสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๒, , ๔ และ ๕  ต่างกันอย่างไร ?
   มาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๒ หมายรวมทั้งหญิงที่รู้เดียงสาและไม่รู้เดียงสา
        โดยที่สุดแม้เกิดในวันนั้น  ส่วนมาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๓, ๔ และ ๕
        หมายเฉพาะหญิงผู้รู้เดียงสาแล้วเท่านั้น ฯ
   ในอนิยต ที่ลับตา และที่ลับหู ได้แก่ที่เช่นไร ภิกษุอยู่กับมาตุคามสองต่อสองในที่
        เช่นนั้น เป็นทางปรับอาบัติอะไรได้บ้าง ?
   ที่ลับตา ได้แก่ ที่มีวัตถุกำบัง แลเห็นไม่ได้  ที่ลับหู ได้แก่ ที่แจ้ง แลเห็นได้ แต่ห่าง
        ไม่ได้ยินเสียงพูด ฯ
        ในที่ลับตา เป็นทางปรับอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์
        ในที่ลับหู เป็นทางปรับอาบัติสังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์ ฯ
   จีวรที่เป็นนิสสัคคีย์แล้ว ควรสละให้แก่ใคร ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงปฏิบัติเช่นไร ?
   ควรสละให้แก่สงฆ์ก็ได้ แก่คณะก็ได้ แก่บุคคลก็ได้ ฯ
        ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงแสดงอาบัติเท่านั้น ฯ
   ภิกษุรู้อยู่ น้อมลาภสงฆ์ไปเพื่อตนก็ดี เพื่อบุคคลก็ดี เพื่อสงฆ์อื่นก็ดี ต้องอาบัติอะไร ?
   น้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์ เพื่อบุคคล ต้องปาจิตตีย์
        เพื่อสงฆ์อื่น ต้องทุกกฏ ฯ
๑๐ข้อว่า ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักฉันบิณฑบาตโดยเคารพ นั้น มีอธิบายอย่างไร ?
๑๐มีอธิบายว่า ภิกษุฉันบิณฑบาต แม้เป็นของเลว ก็ไม่แสดงอาการวิการ คือฉันโดยปกติ
        และเมื่อฉัน ก็ไม่ฉันพลางทำกิจอื่นพลาง ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น