วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท 2548


ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่  ๑๙  พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๘

   .  ตจปัญจกกัมมัฏฐานได้แก่อะไรบ้าง ?  จัดเป็นสมถะหรือวิปัสสนา ?  จงอธิบาย
   ๑.  ได้แก่ เกสา โลมา นขา ทันตา และตโจ ฯ  เป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา  ถ้าเพ่ง
        กำหนดยังจิตให้สงบด้วยภาวนา เป็นสมถะ ถ้าเพ่งพิจารณาถึงความแปรปรวน
        เปลี่ยนแปลงไป หรือให้เห็นว่าเป็นทุกข์ คือทนอยู่ได้ยากและทนอยู่ไม่ได้ ต้อง
        เสื่อมสลายไปในที่สุด หรือให้เห็นว่าเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน
        พิจารณาเช่นนี้เป็นวิปัสสนา ฯ
   .  มหาภูตรูป คือ อะไร ?  มีความเกี่ยวเนื่องกับอุปาทายรูปอย่างไร ?
   .  คือ รูปที่เป็นใหญ่เป็นประธาน อันประกอบด้วย ธาตุ ๔ ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ฯ  
        เป็นที่ตั้งอาศัยแห่งรูปย่อยซึ่งเรียกว่าอุปาทายรูป  เมื่อรูปใหญ่แตกทำลายไป
        อุปาทายรูปที่อิงอาศัยมหาภูตรูปนั้นก็แตกทำลายไปด้วย ฯ
   . พระพุทธเจ้าทรงประพฤติประโยชน์โดยฐานเป็นพระพุทธเจ้าที่เรียกว่าพุทธัตถจริยา
        คือทรงประพฤติอย่างไร ?
   .  ทรงทำหน้าที่ของพระพุทธเจ้า คือ ได้ทรงแสดงธรรมประกาศพระศาสนาให้
        บริษัททั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตรู้ทั่วถึงธรรมตามภูมิชั้น และทรงบัญญัติสิกขาบท
        อันเป็นอาทิพรหมจรรย์และอภิสมาจาร ฯ
    .  ทิฏฐุปาทาน และสีลัพพตุปาทาน คืออะไร ?
   ๔.  ทิฏฐุปาทาน คือถือมั่นความเห็นผิดด้วยอำนาจหัวดื้อ  จนเป็นเหตุเถียงกัน
        ทะเลาะกัน  สีลัพพตุปาทาน คือ ถือมั่นธรรมเนียมที่เคยประพฤติมาจนชิน
        ด้วยอำนาจความเชื่อว่าขลัง จนเป็นเหตุหัวดื้องมงาย ฯ
   .  มัจจุมารได้แก่อะไร ?  ได้ชื่อว่าเป็นมารเพราะเหตุไร ?
   ๕.  ได้แก่ความตาย ฯ  ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเมื่อความตายเกิดขึ้น บุคคลย่อมหมด
        โอกาสที่จะทำประโยชน์ใดๆ อีกต่อไป ฯ
   .  พระพุทธคุณบทว่า  อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ  เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้
        ไม่มีใครยิ่งกว่า
  คำว่า  บุรุษที่ควรฝึกได้  นั้น หมายถึงบุคคลเช่นไร ?
   .  หมายถึงบุคคลผู้มีอุปนิสัยที่อาจฝึกให้ดีได้และตั้งใจจะเข้าใจพระธรรมเทศนา
        แม้ฟังด้วยตั้งใจจะจับข้อบกพร่องขึ้นยกโทษเช่นเดียรถีย์ก็ตาม ฯ
   .  กิเลสที่ได้ชื่อว่าอนุสัยและได้ชื่อว่าสังโยชน์มีอธิบายอย่างไร ?
   ๗.  กิเลสที่ได้ชื่อว่าอนุสัย เพราะเป็นกิเลสอย่างละเอียด นอนเนื่องอยู่ในสันดาน
        ของสัตว์ มักไม่ปรากฏ ต่อเมื่อมีอารมณ์มายั่วจึงปรากฏขึ้น ฯ 
        กิเลสที่ได้ชื่อว่า สังโยชน์ เพราะเป็นกิเลสที่ผูกใจสัตว์ไว้กับภพไม่ให้หลุดพ้นไปได้ ฯ
   .  ในวิมุตติ ๕ วิมุตติอย่างไหนเป็นโลกิยะ อย่างไหนเป็นโลกุตระ ?
   ๘.  ตทังควิมุตติ และวิกขัมภนวิมุตติ จัดเป็นโลกิยวิมุตติ  ส่วน สมุจเฉทวิมุตติ
        ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ และนิสสรณวิมุตติ จัดเป็นโลกุตรวิมุตติ ฯ
   .  พุทธภาษิตว่า ผู้ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว แต่
        ปรากฏว่าผู้ทำกรรมชั่วยังได้รับสุขก็มี ผู้ทำกรรมดียังได้รับทุกข์ก็มี ที่เป็นเช่นนี้
        เพราะเหตุใด ?
   .  เพราะกรรมบางอย่างให้ผลในภพนี้ บางอย่างให้ผลในภพหน้า หรือในภพต่อ ๆ ไป
        ผู้ทำกรรมชั่วได้รับสุข เพราะกรรมชั่วยังไม่ได้ช่องให้ผลในขณะนั้น กรรมดีที่เขา
        ทำไว้ในอดีตกำลังให้ผลอยู่ แต่กรรมชั่วนั้นยังไม่สูญหายไป ยังติดตามให้ผลอยู่
        เสมอ เป็นแต่ยังไม่ได้ช่องเท่านั้น ส่วนผู้ทำกรรมดี ที่ไม่ได้รับสุขในขณะนั้น
        เพราะกรรมชั่วที่เขาได้ทำไว้ในอดีตกำลังให้ผลอยู่ จึงต้องรับทุกข์ลำบากอยู่
        ในขณะนั้น แต่กรรมดีที่ทำไว้นั้นยังไม่สูญหายไป ยังติดตามเขาไปเหมือนเงา
        ตามตัว ฉะนั้น  เมื่อได้ช่องก็ย่อมให้ผลทันที ฯ
๑๐.  คำว่า  วัตร  ในธุดงควัตร หมายถึงอะไร ?  ผู้ถือธุดงค์ข้อเตจีวริกังคะอย่าง
        เคร่ง มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ?
๑๐.  หมายถึงข้อปฏิบัติพิเศษอย่างหนึ่ง ตามแต่ใครจะสมัครถือ บัญญัติขึ้น
        ด้วยหมายจะให้เป็นอุบายขัดเกลากิเลส และเป็นไปเพื่อความมักน้อยสันโดษ ฯ 
        มีวิธีปฏิบัติอย่างนี้ ใช้เฉพาะไตรจีวรของตนเท่านั้น แม้จะซักหรือจะย้อมอันตรวาสก
        ย่อมใช้อุตตราสงค์นุ่ง และใช้สังฆาฏิห่ม ฯ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น