วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก 2553




ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง 
วันพฤหัสบดี        ที่ ๒๕ พฤศจิกายน   พ.ศ.๒๕๕๓


            สังฆกรรม กับวินัยกรรม มีก ำหนดบุคคลและสถานที่ต่างก เหมือนกันอย่างไร ?


            ต่างกันดังนี้ สังฆกรรม ต้องประชุมสงฆ์ครบองค์ตามก ำหนดแห่งก ต้องท ำในสีมา เว้นไว้แต่อปโลกนกรรม ท ำนอกสีมาก็ได้ ส่วนวิ ไม่ต้องประชุมสงฆ์ และท ำนอกสีมาก็ได้ ฯ

            นิมิตที่อยู่รอบโรงอุโบสถ มีไว้เพื่อประโยชน์อะไร ? จงเขียนค ทิศตะวันตกเฉียงใต้มาดู ?

            มีไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายก ำหนดเขตการท ำสังฆกรรม ฯ

ทกฺขิณาย  อนุทิสายกึ นิมิตฺตํ ฯ

            จงอธิบายความหมายของวิสุงคามสีมา  และสัตตัพภันตรสีมา

            วิสุงคามสีมา หมายถึงเขตแห่งสามัคคีที่สงฆ์ได้รับพระราชทาน ราชานุญาตยกให้เป็นแผนกหนึ่งจากบ้าน ฯ สัตตัพภันตรสีมา หมาย แห่งสามัคคีในป่าหาคนตั้งบ้านเรือนไม่ได้ชั่ว ๗ อัพภันดร โดยรอบ นับแต่ที่สุดแห่งสงฆ์ออกไป ฯ


            กฐิน เป็นสังฆกรรมอะไร ? การรับกฐิน ตลอดจนถึงการกราน ต้องท  ในสีมาเท่านั้น หรือท ำนอกสีมาก็ได้ ?

            เป็นญัตติทุติยกรรม ฯ

การรับกฐิน การอปโลกน์เพื่อให้ผ้ากฐิน และการกรานกฐินทำในสีมาหรือ นอกสีมาก็ได้ การสวดญัตติทุติยกรรมวาจาให้ผ้ากฐิน ต้องท ำในสีมา

            บุรพกิจที่พึงทเป็นเบื้องต้นก่อนแต่อุปสมบท ำ คืออะไรบ้าง ? ใน เหล่านั้น กิจที่ต้องท ำเป็นการสงฆ์ มีอะไรบ้าง ?

            คือ ให้บรรพชา ขอนิสสัย ถืออุปัชฌายะ ขนานชื่อมคธแห่งอุปสัมปท และบอกนามอุปัชฌายะ บอกบาตรจีวร สั่งให้อุปสัมปทาเปกขะออกไปย ข้างนอก สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอั เรียกอุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ ให้ขออุปสมบท สมมติภิกษุรู สอบถามอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ

มี สมมติภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ซักซ้อมอุปสัมปทาเปกขะถึงอันตราย อุปสัมปทาเปกขะเข้าในสงฆ์ สมมติภิกษุรูปหนึ่งสอบถามอุปสัมปท ถึงอันตรายิกธรรมในสงฆ์ ฯ

            อุปสัมปทาเปกขะจะส ำเร็จเป็นพระภิกษุได้ เมื่อพระกรรมวาจาจารย์ส บาลีบทใด ?


            ถึงบทว่าโส  ภาเสยฺย ท้ายอนุสาวนาที่ ๓ ฯ

            ติณวัตถารกวินัยมีอธิบายอย่างไร ?  ใช้ระงับอธิกรณ์อะไร ?

            อธิบายว่า กิริยาที่ให้ประนีประนอมกันทั้ง ๒ ฝ่าย ไม่ต้อง หาความเดิม เป็นดังกลบไว้ด้วยหญ้า ฯ ใช้ระงับอาปัตตาธิกรณ์ที่ยุ ไม่รู้จบและเป็นเรื่องสคัญอันจะเป็นเครื่องกระเทือนทั่วไป ำ เว้นครุกาบ อาบัติที่เนื่องด้วยคฤหัสถ์ ฯ

            ลิงคนาสนา คืออะไร ? บุคคลที่ทรงพระอนุญาตให้ท ำลิงคนาส กี่ประเภท ? ใครบ้าง ?

            คือ การให้ฉิบหายเสียจากเพศ ฯ มี ๓ ประเภท ฯ

คือ ภิกษุต้องอันติมวัตถุแล้ว ยังปฏิญญาตนเป็นภิกษุ ๑ บุค ไม่ขึ้น ได้รับอุปสมบทแต่สงฆ์ ๑ สามเณรผู้ประกอบด้วยองค์ ๑ ผู้มักผลาญชีวิตเป็นต้น ๑ ฯ

            ศาสนสมบัติมีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ? การจะน ำผลประโยชน์จ ศาสนสมบัติไปใช้จ่าย มีหลักเกณฑ์อย่างไร ?

            มี ๒ ประเภท ฯ

คือ  ศาสนสมบัติกลาง  และ  ศาสนสมบัติวัด ฯ

มีหลักเกณฑ์อย่างนี้คือ ศาสนสมบัติกลาง ใช้จ่ายในกิจการของส ตามพระวินัยโดยอนุมัติของสงฆ์ ศาสนสมบัติวัด ใช้จ่ายในกิ วัดนั้น ๆ แต่จะน ำศาสนสมบัติของวัดหนึ่งไปใช้อีกวัดหนึ่งไม่


๑๐.   ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง จะสามารถโอนกรรม หรือไม่ ? มีหลักปฏิบัติอย่างไร ?

๑๐. สามารถโอนได้ ฯ

มีหลักปฏิบัติตามความในมาตรา  ๓๔  แห่งพระราชบัญญัติคณะส

พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที พ.ศ. ๒๕๓๕ (มาตรา ๓๔ การโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่ศาสนสมบัติกลาง ให้กระท ำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ เว้นแต ตามวรรคสอง



*********
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น