ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันอังคาร ที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ในอริยบุคคล ๒ พระเสขะผู้ยังต้องศึกษา คือศึกษาเรื่องอะไร ? ผู้ศึกษาก
ำลังสอบธรรมอยู่นี้เรียกว่าพระเสขะได้หรือไม่ ?
คือศึกษา ในอธิสีล ในอธิจิต
และในอธิปัญญา อีกอย่างหนึ่งหม ต้องศึกษาและต้องปฏิบัติเพื่อมรรคผลเบื้องสูงขึ้นไป
ฯ ยังเรียกว่าพระเสขะไม่ได้ ถ้าไม่ใช่พระอริยบุคคล ๗ จ ำพวกเบื้อง
มหาภูตรูปและอุปาทายรูปคืออะไร
?
มหาภูตรูป คือ รูปใหญ่ ได้แก่ธาตุ ๔ มี
ปฐวี อาโป เตโช วาโ อุปาทายรูป คือรูปอาศัยมหาภูตรูปนั้น ฯ
ไตรวัฏฏะ อันได้แก่ กิเลสวัฏฏะ กัมมวัฏฏะ วิปากวัฏฏะ มีสภ
เกี่ยวเนื่องวนกันไปอย่างไร ? ตัดให้ขาดได้ด้วยอะไร ?
อย่างนี้ คือ
กิเลสเกิดขึ้นแล้วให้ทกรรมครั้นท กรรมแล้วำ ำ ย่อมได้รับ วิบากแห่งกรรม เมื่อได้รับวิบาก
กิเลสก็เกิดขึ้นอีก วนกันไปอ ได้ด้วยอรหัตตมรรคญาณ ฯ
เมตตาหมายถึงความรักใคร่หรือความหวังดี
ปรานีหมายถึงความปรารถนา ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์เข้าลักษณะแห่งกรุณา ฯ เมตตาก
ำจัดพยา ปรานีก ำจัดวิหิงสาวิตก ฯ
ทักขิณา คืออะไร ? ทักขิณานั้น จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ
และในฝ่ายปฏิคาหกนั้น มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?
คือ ของท
ำบุญ ฯ
ทักขิณาจะบริสุทธิ์ มีศีลมีกัลยาณธรรมเป็นเครื่องหมาย ทักขิณ
มีทุศีลมีบาปธรรมเป็นเครื่องหมาย ฯ
บทนมัสการพระธรรมว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ธมฺมํ นมสฺส
ข้าพเจ้านมัสการพระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว ที่ว่า ตรัสดีแล้ว
นั้นมีอธิบายอย่างไร ?
มีอธิบายอย่างนี้คือ
ดีทั้งในส่วนปริยัติและดีทั้งในส่วนปฏิเ ได้ชื่อว่าดีเพราะตรัสไม่วิปริต
เพราะแสดงข้อปฏิบัติโดยล ำดับ มีความไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด
พร้อมทั้งอรรถทั้ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ในส่วนปฏิเวธนั้น ได้ชื่อว่าดี
เพราะปฏิปทากับพระนิพพานย่อมสมควรแก่กันและกัน
พระพุทธคุณว่า อรหํ ใช้เป็นคุณบทของพระสาวกได้ด้วยหรือไม่ ? ถ้าได้ จะมีค ำอะไรมาประกอบร่วมด้วย
เป็นเครื่องหมายให้รู้ว่าเป ของพระศาสดาหรือของพระสาวก ?
ได้ ฯ ส ำหรับพระศาสดา ใช้ว่า อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ
แปลว่า พระอ ผู้ตรัสรู้ชอบเอง ส ำหรับพระสาวกใช้ว่า อรหํ ขีณาสโว แปลว่า
พระอรหันต์ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ฯ
ค ำว่า
พระสงฆ์ ในบทสังฆคุณนั้น ท่านประสงค์บุคคลเช่นไร ? จงจ ำแนกมาดู
ท่านประสงค์พระอริยบุคคล ๔ คู่ ๘ บุคคล
ซึ่งล้วนแต่ท่านผู มรรคผลทั้งสิ้น คือ พระโสดาปัตติมรรค พระโสดาปัตติผล คู่ ๑
พระสกทาคามิมรรค พระสกทาคามิผล คู่ ๑ พระอนาคามิมรรค พระอนาคามิผล คู่ ๑
พระอรหัตมรรค พระอรหัตผล คู่ ๑ ฯ
พระบาลีว่า “อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา” เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงม ดังนี้ ค
ำว่า สังขารหมายถึงอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?
หมายถึงสภาพผู้ปรุงแต่ง ฯ
ได้แก่๑. ปุญญาภิสังขาร อภิสังขารคือบุญ
อปุญญาภิสังขาร
อภิสังขารคือบาป
๓. อเนญชาภิสังขาร อภิสังขารคืออเนญชา ฯ
๑๐. คือ กรรมหนัก ฯ
อนันตริยกรรม เป็นครุกรรมฝ่ายอกุศล
สมาบัติ ๘ เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล ฯ
*********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น