ปัญหาวิชาอนุพุทธประวัติ
นักธรรมชันโท
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ที๑๘พฤศจิกายน พุทธศักราช๒๕๕๙
๑.
ประวัติอนุพุทธบุคคลมีความสําคัญต่อผู้ศึกษาอย่างไร?
ตอบ ทําให้ผู
้ศึกษาได้รับความรู ้ในจริยาวัตร และคุณความดีที ท่านได้บําเพ็ญมา ตลอดจนถึงผ
ในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาอันทําให้เจริญสืบมาถึงทุกวันนีนําให้เกิดความเลื
อมใสและความนับ ถือเป็นทิฏฐานุคติอันดี สามารถน้อมนํามาปฏิบัติตามได้ ฯ
๒.
เอหิภิกขุอุปสัมปทาที ประทานแก่พระโกณฑัญญะและพระยสะต่างกันอย่างไร? เพราะเหตุไร?
ตอบ ต่างกัน คือ ที
ประทานแก่พระโกณฑัญญะมีคําว่า เพื อทําที สุดทุกข์โดยชอบแก่ ส่วนที พระยสะไม่มีคําว่า เพื อทําที สุดทุกข์โดยชอบ ฯ
เพราะพระยสะได้ถึงที สุดทุกข์แล ้ว ฯ
๓.
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องใครว่าเป็ นผู้มีบริว?เพราะเหตุไรรมาก? ตอบ พระอุรุเวลกัสสปะ ฯ
เพราะเหตุที ท่านเป็นผู ้รู ้จักเอาใจบริวาร รู ้จักสงเคราะห์ด้วยธรรมบ้าง
ด้วยอามิสบ้า ผู ้ประกอบด้วยคุณสมบัตินี
ย่อมเป็นผู ้สามารถควบคุมบริวารใหญ่ไ้ได้ฯ
๔.
พระพุทธองค์ทรงยกย่องพระสารีบุตรคู่กับพระโมคคัลลานะโดยอุปมาไว้อย่างไร? ตอบ
พระพุทธองค์ตรัสอุปมาว่า
พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู ห้ทารกเกิด้ใ
พระโมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผูลี ยงทารกนั้เ นที เกิดแล ้ว ฯ
ทําใจอย่างนี คือ เมื อแสวงหาไม่ได้ ก็ไม่สะดุ้งตกใจ เมื
อแสวงหาได้แล ้วก็ไม่กําหนัด ในปัจจัย๔ นั น ฯ
๖.
พระสาวก ผู้อธิบายภัทเทกรัตตสูตรทีทรงแสดงโดยย่อให้พิสดารคือใคร ? ท่านได้รับการสรรเสริญจากพระศาสดาว่าอย่างไร?
ตอบ คือ พระมหากัจจายนะ ฯ
ท่านได้รับสรรเสริญจากพระศาสดาว่า เป็นผู ้ฉลาดในการอธิบายคําที
ย่อให้พิสดาร ฯ
๗.
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอุปมาด้วยพิณ๓สาย แก่ใคร? ด้วยทรงพระประสงค์ใด ? ตอบ
แก่พระโสณโกฬวิสะิ ฯ
ด้วยทรงพระประสงค์จะให้ท่านทําความเพียรพอประมาณ
เพราะท่านทําความเพียรอย่างยิ ง เดินจงกรมจนเท้าแตก ฯ
๘.
สตรีคนแรกที ได้อุปสมบทในพุทธศาสนาคือใคร?อุปสมบทด้วยวิธีใด? ตอบ คือ พระมหาปชาบดีโคตมี ฯ
ด้วยวิธีรับครุธรรม๘ประการ ฯ
ศาสนพิธี
๙.
ธรรมเนียมของสงฆ์ที พึงปฏิบัติชอบต่อกันเพือความสามัคคี เรียกว่าอะไร ? หมายถึงอะไร?
ตอบ เรียกว่า สามีจิกรรม ฯ
หมายถึง
การขอขมาโทษ และการให้อภัยกัน ฯ
๑๐. การถวายผ้าวัสสิกสาฎกนั
น มีมูลเหตุมาจากอะไร ? ใครเป็ นผู้ถวายคนแรก?
ตอบ มีมูลเหตุมาจากเดิมยังไม่มีพุทธานุญาตให้ภิกษุมีผ้าวัสสิกสาฎก
ภิกษุทั งหลายจึงเปลือยกาย อาบนํ า นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ทราบเรื องนั นแล ้ว
เห็นว่าไม่สมควรแก่เพศสมณะ จึงทูลข พระพุทธานุญาต เพื อถวายผ้าอาบนํ าฝนแก่ภิกษุทั
งหลาย ฯ
ให้เวลา๓ ชั วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น