ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ
นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันจันทร์
๒๖ที่พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑
๑.
ศากยวงศ์สืบเชื้อสายมาจากใคร?ที่ได้นามว่าศากยะ เพราะเหตุไร?
ตอบ สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าโอกกากราช ฯ
เพราะเหตุ๒ ประการ คือ
๑.
เพราะได้ชื่อตามชนบทที่ตั้งเมือง
๒. เพราะมีความกล้าหาญ สามารถตั้งเมืองได้เอง ฯ
๒.
ที่สุดโต่งอันบรรพชิตไม่ควรเสพคืออะไรบ้าง?ที่สุดโต่งนั้น มีโทษอย่างไร?
ตอบ คือ ๑. กามสุขัลลิกานุโยค
๒.
อัตตกิลมถานุโยค ฯ มีโทษดังนี้
กามสุขัลลิกานุโยคการประกอบตนให้พัวพันด้วยสุขในกามคือ
เป็นธรรมอันเลว เป็นเหตุตั้งบ้านเรือน เป็นของคนมีกิเลสหนาไม่ใช่ของคนอริยะ
คือผู้บริสุทธิ์อบด้วยประโยชน์ไม่ประก
อัตตกิลมถานุโยค คือการประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตนเปล่า
ให้เกิดทุกข์ แก่ผู้ประกอบ ไม่ท าผู้ป ให้เป็นอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ฯ
๓.
ภัพพบุคคล
คือบุคคลเช่นใด?ประเภทที่๑
ท่านเปรียบด้วยอะไร?
ตอบ ภัพพบุคคลคือบุคคลผู้สามารถจะตรัสรู้ธรรมได้
ฯ อุคฆติตัญญู เปรียบด้วยดอกบัวพ้นน้ า เมื่อต้องแสงพระอา ก็จักบานในวันนั้น ฯ
๔.
พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ที่ไหน? มีใจความย่อว่าอย่างไร?
ตอบ ที่เวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์ ฯ
ใจความย่อว่าไม่ท าบาปทั้งปวง ท ากุศลให้ถึงพร้อม ท าใจให้บร
๕.
หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะได้ท าก ที่ส าคัญแก่พระศาสนา?จงอธิบาย
ตอบ ท่านได้ท
ากิจที่ส าคัญ คือเป็นผู้ชักชวนภิกษุสงฆ์ ท กรองพระธรรมวินัย และเป็นประธานในการท
าสังคายนานั้น อัน เป็นเหตุให้พระศาสนาตั้งมั่นถาวรสืบมาจนถึงปัจจุบัน ฯ
๖.
ปัญหาว่า“โลกคือหมู่สัตว์ อันอะไรปิดบังไว้ จึงหลงดุจอยู” ดังนี้ใครเป็นผู้ถาม?ได้รับค าพยากรณ์ว่าอย่างไร?
ตอบ อชิตมาณพเป็นผู้ถาม ฯ
ได้รับการพยากรณ์ว่า โลกคือหมู่สัตว์อันอวิชชาคือความไม่รู้แจ้ง
ปิดบังไว้ จึงหลงอยู่ ในที่มืด ฯ
๗.
พระภัททิยเถระ
มักเปล่งอุทานเนืองๆ ว่า สุขหนอๆ ดังนี้
เพราะเหตุไร?
ตอบ เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ต้องจัดการรักษาป้ ทั้งในวังนอกวังทั้งในเมืองนอกเมือง จนตลอดทั่วอาณาเขต
แม้มีคนคอยรักษาอย่างนี้แล้ว ยังต้องหวาดระแวงสะดุ้งกลัว เป็นนิตย์
ครั้นทรงออกบวชได้บรรลุอรหัตผลแล้ว แม้อยู่ในที่ไหนๆ ก็ไม่หวาดระแวง ไม่สะดุ้งกลัว
ไม่ต้องขวนขวาย มีใจปลอดโปร่ เป็นอิสระแก่ตน จึงเปล่งอุทานเช่นนั้น ฯ
๘.
ในครั้งปฐมสังคายนา พระสาวกองค์ใดรับหน้าที่วิสัชนาพระว? ท่านอุปสมบทพร้อมกับใครบ้าง?
ตอบ พระอุบาลีเถระ ฯ
อุปสมบทพร้อมกับเจ้าศากยะ๕พระองค์ คือ ภัททิยะ อนุรุทธะ
อานนท์ ภัคคุกิมพิละ กับเจ้าโกลิยะ๑องค์ คือเทวทัต ฯ
๙.
ภิกษุณีผู้มีชื่อต่อไปนี้ได้รับเอตทัคคะในทางไหน? ก. พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี
ข. พระเขมาเถรี
ค.
พระอุบลวัณณาเถรี ง. พระปฏาจาราเถรี จ. พระธัมมทินนาเถรี
ตอบ ก. ได้รับเอตทัคคะในทางรัตตัญญู
ข.
ได้รับเอตทัคคะในทางมีปัญญา ค.
ได้รับเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์ ง. ได้รับเอตทัคคะในทางทรงวินัย จ. ได้รับเอตทัคคะในทางธรรมกถึก
ฯ
๑๐. สุภัททวุฑฒบรรพชิต
กล่าวจาบจ้วงพระธรรมวินัยว่าอย่าง?
และท าให้เกิดเหตุการณ์อะไรในกาลต่อมา?
ตอบ ว่า“เราทั้งหลายพ้นดีแล้วจากพระสมณะนั้นบัดนี้
เราพอใจ
จะท าสิ่งใดก็ท ามิพอใจทหรือ าสิ่งใดก็ไม่ต้องท”ฯ า
เป็นเหตุให้เกิดสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่๑ฯ
ให้เวลา๓ ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น