วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

อนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท 2543


ปัญหาและเฉลยอนุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง พ.. ๒๕๔๓
วันศุกร์ ที่  ๑๗  พฤศจิกายน พ.. ๒๕๔๓
------------------------------
.
.
อนุพุทธบุคคลคือบุคคลพวกไหน ?  ได้ชื่อว่าอย่างนั้นเพราะเหตุไร ?

.
อนุพุทธบุคคล เป็นนักบวชหรือบุคคลทั่วไป ?
.
.
คือบุคคลผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้ชื่ออย่างนั้นเพราะเป็นผู้รู้ตาม
พระพุทธเจ้า

.
เป็นนักบวชก็มี เป็นบุคคลทั่วไปก็มี
.
.
การศึกษาอนุพุทธประวัติให้ประโยชน์อย่างไรต่อเจ้าของประวัติ ?

.
การศึกษาอนุพุทธประวัติให้คุณค่าอย่างไรต่อผู้ศึกษา ?
.
.
เป็นการประกาศเกียรติคุณพระสาวกผู้เป็นอุปการะแก่พระศาสนา               ได้เชิดชูพระคุณท่าน นำเพื่อนร่วมศาสนาให้เกิดปสาทะและนับถือ  ความดีของพระสาวกปรากฏแล้วจักเชิดชูพระเกียรติคุณของพระศาสดายิ่งขึ้น

.
ให้คุณค่าในด้านกำหนดและจดจำวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่านมาเป็นปฏิปทาเครื่องดำเนินชีวิตของตน
.
.
พระโกณฑัญญะได้เกิดความรู้เห็นอย่างไรก่อน จึงนับว่าเป็นปฐมอริยสาวก ?

.
ท่านได้รับเกียรติยศเป็นพิเศษเพราะเหตุนี้อย่างไรบ้าง ?
.
.
ได้เกิดความรู้เห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้น        ทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา คือได้ดวงตาเห็นธรรม (ธรรมจักษุ) แล้วทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ จึงนับได้ว่าเป็นปฐมอริยสาวกใน       พระศาสนา

.
เมื่อท่านเกิดความรู้เห็นดังนี้  พระบรมศาสดาจึงทรงเปล่งอุทาน ว่า "อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญแปลว่า โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอๆ แต่นั้นมา ท่านมีนามว่า อัญญาโกณฑัญญะ ข้อนี้เป็นเกียรติยศพิเศษสำหรับท่านผู้เป็นปฐมอริยสาวก ฯ

.
.
พระสาวกรูปใดได้รับการบวชด้วยญัตติจตุตถกรรมเป็นรูปแรก ?

.
พระสาวกรูปนั้นได้รับยกย่องเป็นเลิศในทางไหน ?
.
.
พระราธะ

.
ในทางมีปฏิภาณ คือญาณแจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนา
.
.
พระพุทธองค์ทรงยกย่องพระสารีบุตรคู่กับพระโมคคัลลานะโดยอุปมาไว้ อย่างไร ?

.
ที่ตรัสอุปมาไว้อย่างนั้นเพราะเหตุไร ?
.
.
พระพุทธองค์ตรัสอุปมาว่า พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ให้ทารกเกิด   พระโมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้วนั้น

.
ที่ตรัสอุปมาไว้อย่างนั้นเพราะพระสารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ใน   โสดาปัตติผล พระโมคคัลลานะย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบนที่   สูงกว่านั้น
.
.
การพบกันของพระอัสสชิและอุปติสสปริพาชกมีผลต่อพระพุทธศาสนา    อย่างไร ?

.
พระสารีบุตรมีปัญญาเลิศกว่าพระสาวกทั้งหลายนั้น มีอะไรเป็นเครื่อง     ยืนยัน ?
.
.
มีผลเกิดขึ้นดังนี้คือ
     ) อุปติสสปริพาชกได้ความเลื่อมใสในวัตรของพระอัสสชิ
     ) อุปติสสปริพาชกได้ฟังธรรมแล้วได้ดวงตาเห็นธรรม
     ) อุปติสสปริพาชกได้ชักชวนเพื่อนไปบวช ฟังธรรมแล้วได้บรรลุ
          ธรรม
     ) พระพุทธองค์ได้อัครสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวา

.
มีพระพุทธดำรัสตรัสยกย่องพระสารีบุตรว่า เป็นยอดแห่งพระสาวกผู้มีปัญญาและตรัสสรรเสริญว่า พระสารีบุตรสามารถแสดงธรรมจักร    และจตุราริยสัจ ได้กว้างขวางพิสดารแม้นกับพระองค์ ประกอบกับพระธรรมเทศนาที่ท่าน    ได้แสดงไว้ในโอกาสนั้น ส่องให้เห็นถึงอัจฉริยภาพอย่างแท้จริงของท่าน     ในด้านนี้
.
.
ธรรมุทเทศคืออะไรบ้าง ?    .  ใครแสดงแก่ใคร ?
.
.
ธรรมุทเทศ คือ

     ) โลกคือหมู่สัตว์อันชรานำเข้าไปใกล้ ไม่ยั่งยืน
     ) โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่จำเพาะตน
     ) โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีอะไรเป็นของ ๆ ตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป
     ) โลกคือหมู่สัตว์พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา

.
พระรัฐบาลแสดงถวายพระเจ้าโกรัพยะ


                                   ศาสนพิธี
.
.
คำว่า สวดมาติกาหรือสดับปกรณ์ หมายถึงอะไร ?

.
คำทั้งสองนั้นใช้ต่างกันอย่างไร ?
.
.
หมายถึงการสวดบทมาติกาของพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ หรือที่เรียกว่า  สัตตัปปกรณาภิธรรม ซึ่งมีการบังสุกุลเป็นที่สุด เป็นประเพณีนิยมจัดให้พระสงฆ์สวดในงานทำบุญหน้าศพอย่างหนึ่ง

.
คำว่าสวดมาติกา ใช้ในงานศพราษฎรสามัญทั่วไป ส่วนคำว่า สดับปกรณ์ ใช้เรียกโดยโวหารทางราชการในงานหลวง (ศพหรืออัฐิของเจ้านายตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป)
.
.
ผ้าวัสสิกสาฎกคือผ้าเช่นไร ?

.
ผ้าจำนำพรรษาคือผ้าเช่นไร ?
.
.
คือ ผ้าสำหรับภิกษุใช้นุ่งในเวลาอาบน้ำฝนหรืออาบน้ำทั่วไป เรียกกันว่า ผ้าอาบน้ำฝนบ้าง ผ้าอาบบ้าง ผ้านี้เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลที่ทรงอนุญาตเป็นบริขารพิเศษชั่วคราว อธิษฐานไว้ใช้ได้ตลอด ๔ เดือนฤดูฝน พ้นจากเขตนั้นเป็นธรรมเนียมให้วิกัป

.
คือ ผ้าที่ทายกถวายแก่ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ เดือน   เว้นผ้ากฐิน
๑๐.
๑๐.
ศาสนพิธีเล่ม ๒ แสดงอุโบสถกรรมไว้กี่ประเภท ?  อะไรบ้าง ?

๑๐.
แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร ?
๑๐.
๑๐.
มี ๓ ประเภท คือ สังฆอุโบสถ ๑  ปาริสุทธิอุโบสถ ๑  อธิษฐานอุโบสถ ๑

๑๐.
มีความแตกต่างกันดังนี้

)
สังฆอุโบสถ คือ อุโบสถกรรมที่พระภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ประชุมสวด   พระปาฏิโมกข์

)
ปาริสุทธิอุโบสถ คือ อุโบสถกรรมที่พระภิกษุน้อยกว่า รูป มีเพียง รูป หรือ ๒ รูป ร่วมกันทำเป็นการคณะ ให้แต่ละรูปบอกความบริสุทธิ์ของตน ๆ

)
อธิษฐานอุโบสถ คืออุโบสถกรรมที่พระภิกษุรูปเดียวทำเป็นการบุคคลด้วยการอธิษฐานความบริสุทธิ์ใจของตนเอง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น