วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นโท 2549


ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นโท
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่ ๑๗ ธันวาคม พ.. ๒๕๔๙
   .  อภิสมาจาร คืออะไร ?  ภิกษุล่วงละเมิดจะเกิดความเสียหายอย่างไร ?
   . คือ ธรรมเนียมของภิกษุ ฯ
        ถ้าล่วงละเมิดแต่บางอย่างหรือบางครั้งก็เสียหายน้อย แต่ถ้าล่วงละเมิด
        มากอย่างหรือเป็นนิตย์ ธรรมเนียมย่อมกลายไปหรือเสื่อมไป ภิกษุ
        จะแตกเป็น ๒ พวก คือเคร่งและไม่เคร่ง ฯ
  .  ภิกษุพึงปฏิบัติเกี่ยวกับเล็บมือเล็บเท้าของตนอย่างไร จึงจะถูกต้องตาม
        วินัยแผนกอภิสมาจาร ?
  .  พึงปฏิบัติอย่างนี้ คือ ไม่พึงไว้เล็บยาว พึงตัดพอเสมอเนื้อ ไม่พึงขัดเล็บ
        ให้เกลี้ยงเกลาด้วยมุ่งหมายให้เกิดความสวยงาม  แต่เล็บเปื้อน จะขัด
        มลทินหรือแคะมูลเล็บได้อยู่ นี้เป็นกิจควรทำ ฯ
  .  ภิกษุพึงใช้บริขารบริโภคและเครื่องอุปโภคอย่างไร จึงจะดูน่าเลื่อมใส
       ของประชาชน ?
  .  การใช้บริขารบริโภคและเครื่องอุปโภคนั้น ภิกษุควรรู้ต้นเค้าคือนิสัย ๔
        ว่า ภิกษุย่อมนิยมใช้สอยบริขารที่เป็นของปอนหรือของเรียบๆ ไม่ใช้
        ของดีที่กำลังตื่นกันในสมัยอันจะพึงเรียกว่าโอ่โถง ความประพฤติปอน
       
ของภิกษุนี้ย่อมทำให้เกิดความเลื่อมใสแก่คนบางพวกที่เรียกว่า ลูขประมาณ
       
แปลว่า มีของปอนเป็นประมาณ คือมีของปอนเป็นเหตุนับถือ ฯ
   .  ผ้าสังฆาฏิ  คือผ้าอะไร ?  มีหลักฐานความเป็นมาอย่างไร ?
   .  คือ ผ้าสำหรับห่มกันหนาวหรือห่มซ้อนนอก ทรงอนุญาตเพื่อใช้ในฤดู
        หนาว ฯ
        มีเรื่องเล่าว่า ในฤดูหนาวจัด ทรงทดลองห่มจีวรผืนเดียวอยู่ในที่แจ้ง
        สามารถกันความหนาวได้ยามหนึ่ง ถ้าอยู่ตลอดราตรี ต้องผ้า ๓ ชั้นจึง
        พอกันความหนาวได้ จึงทรงอนุญาตสังฆาฏิ ๒ ชั้นเข้ากับอุตตราสงค์
        ชั้นเดียว จะได้เป็น ๓ ชั้น พอกันความหนาวดังกล่าวได้ ฯ
   ๕.  พระอุปัชฌาย์และสัทธิวิหาริก พึงปฏิบัติต่อกันอย่างไร จึงจะเกิดความ
        เจริญงอกงามในพระธรรมวินัย
?
   ๕.  พึงปฏิบัติตามที่สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสสั่งไว้ว่า ให้พระอุปัชฌาย์และ
       
สัทธิวิหาริกตั้งจิตสนิทสนมในกันและกัน ให้พระอุปัชฌาย์สำคัญ
        สัทธิวิหาริกฉันบุตร ให้สัทธิวิหาริกนับถือพระอุปัชฌาย์ฉันบิดา เมื่อเป็น
        เช่นนี้ ต่างจะมีความเคารพเชื่อฟังถูกกันอยู่ ย่อมจะถึงความเจริญ
        งอกงามไพบูลย์ในพระธรรมวินัย ฯ
   .  เมื่อภิกษุเพื่อนสหธรรมิกอาพาธ  ทรงให้ใครเป็นผู้พยาบาล ?  และทรง
        สั่งสอนปรารภภิกษุอาพาธไว้ว่าอย่างไร
?
   . ทรงให้ภิกษุเพื่อนสหธรรมิกเอาใจใส่รักษาพยาบาลกัน อย่าทอดธุระเสีย ฯ
        ทรงสั่งสอนปรารภภิกษุอาพาธไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย มารดาและบิดา
        ของเธอทั้งหลายไม่มี ถ้าพวกเธอจะไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจะ
        พยาบาลพวกเธอ ภิกษุใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเรา ขอให้ภิกษุนั้น
        พยาบาลภิกษุไข้เถิด ฯ
  .  วิธิวัตร คืออะไร ?  มีความสำคัญอย่างไร ?
  .  คือ วินัยที่ว่าด้วยแบบอย่าง เช่นแบบอย่างการห่มผ้าเป็นต้น ฯ
        แบบอย่างนั้นเป็นเหตุให้ภิกษุมีความประพฤติสม่ำเสมอกัน เช่นนุ่งห่ม
        เป็นแบบเดียวกันอันโบราณท่านจัดไว้ถ้าเป็นแบบที่ล่วงเวลาและจะ
        ไม่ใช้ก็ต้องมีวิธีใหม่แทน ไม่เช่นนั้นจะค่อยหลุดไปทีละอย่าง จนไม่มี
        อะไรเหลือเมื่อถึงเวลานั้นพระสงฆ์ก็จะไม่มีอะไรที่ต่างจากชาวบ้าน ฯ
  .  การจำพรรษาของภิกษุมีวิธีอย่างไร ?  จงอธิบายพอเข้าใจ
  .  การจำพรรษานั้น ในบาลีกล่าวเพียงให้ทำอาลัย คือ ผูกใจว่าจะอยู่ในที่นี้
       
๓ เดือน แต่ในบัดนี้มีธรรมเนียมที่ประชุมกันกล่าวคำอธิษฐานพร้อม
        กันว่า อิมสฺมึ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปม แปลความว่า เราเข้าถึง
        ฤดูฝนในอาวาสนี้ตลอด ๓ เดือน ฯ
  .  ในการทำอุโบสถของภิกษุ การสวดปาฏิโมกข์ การบอกความบริสุทธิ์
        และการอธิษฐาน  ทรงให้ทำได้ในกรณีใด
?
  .  ในกรณีที่ภิกษุประชุมกันตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ตรัสให้สวดปาฏิโมกข์ ถ้ามี
        เพียง ๓ รูป ๒ รูป เรียกว่าคณะ ตรัสให้บอกความบริสุทธิ์ของตน
        แก่กันและกัน ถ้ามีรูปเดียวเรียกว่าบุคคล ให้อธิษฐานใจ คือคิดว่าวันนี้
        เป็นวันอุโบสถของเรา ฯ
๑๐.  คำว่า อธิษฐานในวินัยกรรม คืออะไร ?  ผ้าสังฆาฏิผืนเดิมเก่าขาดใช้ไม่ได้
       
จะเปลี่ยนใหม่  พึงปฏิบัติอย่างไร ?

๑๐.  คือ การตั้งบริขารที่ทรงอนุญาตสำหรับภิกษุเอาไว้ใช้สำหรับตัว
        (เช่นการตั้งใจใช้จีวรผืนนั้น ไม่ใช้ผืนอื่น)
        พึงทำพินทุผ้าสังฆาฏิผืนใหม่ว่า อิมํ พินฺทุกปฺปํ กโรมิ เราทำหมาย
        ด้วยจุดนี้ แล้วปัจจุทธรณ์คือยกเลิกผ้าสังฆาฏิเดิมว่า อิมํ สงฺฆาฏึ
        ปจฺจุทฺธรามิ
เรายกเลิกผ้าสังฆาฏิผืนนี้ ต่อจากนั้นอธิษฐานผ้าสังฆาฏิ
        ผืนใหม่ว่า อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺ
ามิ เราตั้งเอาไว้ซึ่งผ้าสังฆาฏิผืนนี้ ฯ

*********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น