ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ
นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่ ๑๖ พฤศจิกายน.. ๒๕๖๒
๑.
สิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์เรียกว่าอะไร?ทรงบัญญัติไว้ เพื่อประโยชน์อะไร?
ตอบ เรียกว่า
อภิสมาจาร ฯ
ทรงบัญญัติไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของภิกษุ แ
ความงามของพระศาสนา เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ จำต้อง
มีขนบธรรมเนียมและระเบียบไว้รักษาเกียรติและความเป็นผู้ดี
ของตระกูล ฯ
๒.
เปลือยกายอย่างไรต้องอาบัติถุลลัจจัย?อย่างไรต้องอาบัติทุกกฏ?
ตอบ เปลือยกายเป็นวัตรเอาอย่างเดียรถีย์
ต้องอาบัติถุลลัจจัย ฯ
เปลือยกายทำกิจแก่กัน เช่น ไหว้ รับไหว้ ให้ของรับของทำบริกรรม
และเปลือยกายในเวลาฉัน ในเวลาดื่ม ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
๓.
บริขาร
๘อย่างไหนจัดเป็นบริขารบริโภค อย่างไหนจัดเป็น
บริขารอุปโภค?
ตอบ ไตรจีวร บาตร
ประคตเอว รวม ๕ อย่าง จัดเป็นบริขารบริโภค ฯ เข็ม มีดโกน และผ้ากรอกน้ำ
จัดเป็นบริขารอุปโภค ฯ
๔. ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ?
ตอบ ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
๑. เป็นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ
๒. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ
เคยได้ยิน ได้ฟังมามาก มีปัญญา
๓.
รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จำพระปา ได้แม่นยำ
ทั้งมีพรรษาพ้น
๕ ฯ
๕.
ภิกษุผู้เป็นอาคันตุกะ ไปสู่อาวาสอื่น พึงประพฤติอย่า ธรรมเนียมตามพระวินัย?
ตอบ พึงประพฤติดังนี้
๑. ทำความเคารพในท่าน
๒. แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น ๓. แสดงอาการสุภาพ
๔. แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น
๕. ถ้าจะอยู่ที่นั่น ฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถิ่นควรประพ ๖.
ถือเสนาสนะแล้วอย่าดูดาย เอาใจใส่ชำระปัดกวาดให้หมดจด
จัดตั้งเครื่องเสนาสนะให้เป็นระเบียบ ฯ
๖.
ภิกษุอยู่ในกุฎีเดียวกันกับภิกษุผู้มีพรรษามากกว่า คว
อย่างไรจึงชื่อว่าแสดงความเคารพท่านตามพระวินัย?
ตอบ ควรปฏิบัติตนอย่างนี้
คือ จะทำสิ่งใด ๆ ควรขออนุญาตท่านก่อ เช่น จะสอนธรรมจะอธิบายความ จะสาธยาย
จะแสดงธรรม จะจุดจะดับไฟ จะเปิดจะปิดหน้าต่าง ห้ามมิให้ทำตามอำเภอใจ ฯ
๗.
ดิถีที่กำหนดให้เข้าจำพรรษาในบาลีกล่าวไว้เท่าไร?อะไรบ้าง?
ตอบ กล่าวไว้ ๒ ฯ คือ
๑.
ปุริมิกาวัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาต้น
คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือ ๒. ปัจฉิมิกาวัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาหลัง คือวันแรม ๑ ค่ำ
เด
๘.
ปวารณา
คืออะไร? มีพระพุทธานุญาตให้ทำในวันไหน?
ตอบ คือ
การบอกให้โอกาสแก่ภิกษุทั้งหลายเพื่อปรารถนาตักเตือนว
กล่าวตนได้ ฯ
มีพระพุทธานุญาตให้ทำในวันขึ้น๑๕ค่ำ เดือน ๑๑ ซึ่งเป็นวันเต็ม
๓ เดือนแต่วันจำพรรษา ฯ
๙.
ดิรัจฉานวิชาไม่ดีอย่างไร
พระศาสดาจึงตรัสห้ามไว้ ไม่ให้ ไม่ให้เรียน?
ตอบ เป็นความรู้ที่เขาสงสัยว่าลวงหรือหลง
ไม่ใช่ความรู้จริงจัง ผู้ลวง ผู้เรียนก็เป็นผู้หัด เพื่อจะลวงหรือเป็นผู้หลงงมงาย
ฉะนั้น พระศาสดาจึงตรัสห้ามไว้ ไม่ให้บอกไม่ให้เรียน ฯ
๑๐. ยาวกาลิก
กับ ยาวชีวิก ต่างกันอย่างไร?
ตอบ ยาวกาลิก คือ
ของที่ใช้บริโภคเป็นอาหาร บริโภคได้ชั่ว
คือตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวันโภชะได้แก่๕นมสด นมส้ม ของขบเคี้ยว
เป็นต้น ฯ
ส่วนยาวชีวิก เป็นของที่ให้ประกอบเป็นยา บริโภคได้เสมอไป ไม่มีจำกัดเวลา
แต่เมื่อมีเหตุจึงบริโภคได้ ได้แก่ รากไม้ น้ำฝาดใบไ ผลไม้ ยางไม้ เกลือ เป็นต้น ฯ
ให้เวลา ๓ ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น