วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิชาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นเอก 2551


ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก
สอบในสนามหลวง
วันอาทิตย์ ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
๑.       พุทธประวัติ วิภาคที่ ๑ ปุริมกาล และวิภาคที่ ๓ อปรกาล ที่ทรงรจนาไว้แสดงถึงเรื่องอะไร ?
๑.       ปุริมกาล แสดงถึงเรื่องเป็นไปในกาลก่อนแต่บำเพ็ญพุทธกิจ
อปรกาล แสดงถึงเรื่องถวายพระเพลิงและแจกพระธาตุ ฯ
๒.       ในขณะเสวยวิมุตติสุขใต้ร่มไม้มหาโพธิ์  พระพุทธเจ้าทรงพิจารณา    ข้อธรรมอะไร ?   และธรรมนั้นมีใจความย่อว่าอย่างไร ?
๒.       ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท ฯ
          มีใจความย่อว่า  สภาวะอย่างหนึ่งเป็นผลเกิดแต่เหตุอย่างหนึ่งแล้ว  ซ้ำเป็นเหตุยังผลอย่างอื่นให้เกิดต่อไปอีก เหมือนลูกโซ่เกี่ยวคล้องกันเป็นสาย ฯ
๓.       อนุปุพพีกถาและสามุกกังสิกธรรม คืออะไร ?  พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่บุคคลผู้มีองคสมบัติอะไร ?
๓.       อนุปุพพีกถา  คือ ถ้อยคำที่กล่าวเรียงเรื่องเป็นลำดับไป คือ ทานกถา สีลกถา สัคคกถา กามาทีนวกถา เนกขัมมานิสังสกถา
สามุกกังสิกธรรม คือ ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงยกขึ้นแสดงเอง 
ได้แก่อริยสัจ ๔ ฯ
ผู้มีองคสมบัติ คือ
                    ๑. เป็นมนุษย์
                    ๒. เป็นคฤหัสถ์
                    ๓. มีอุปนิสัยแก่กล้า  ควรบรรลุโลกุตรคุณในที่นั้น ฯ
๔.       พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดชฎิล ๓ พี่น้องพร้อมบริวาร โดยบังเอิญหรือโดยตั้งพระหฤทัยไว้ก่อน ?  มีหลักฐานสนับสนุนคำตอบนั้นอย่างไร ?
๔.       โดยตั้งพระหฤทัยไว้ก่อน ฯ   มีหลักฐานปรากฏว่า  ในครั้งที่ทรงส่งพระสาวก ๖๐ องค์แรกไปประกาศพระพุทธศาสนาในที่ต่าง ๆ  ทรงมีพระดำรัสว่า  “แม้เราก็จะไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม  เพื่อจะแสดงธรรม” ฯ
๕.       มีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า สัตบุรุษตั้งมั่นแล้วในสัจจะที่เป็นอรรถเป็นธรรม ดังนี้ ข้อนี้ มีปฏิปทาของพระสาวกรูปใด ที่ให้สัญญาต่อกันไว้แล้วปฏิบัติตามสัญญานั้น เป็นตัวอย่าง ?   จงเล่าเรื่องประกอบ
๕.       มีปฏิปทาของพระสารีบุตร เป็นตัวอย่าง ฯ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งที่ท่านและพระโมคคัลลานะยังไม่ได้อุปสมบท  เคยให้สัญญากันว่า ใครได้โมกขธรรมก่อน จะบอกแก่กัน ต่อมาท่านพระสารีบุตรได้ฟัง
อริยสัจจกถาแต่สำนักพระอัสสชิแล้ว ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงนำข้อความนั้นไปบอกแก่พระโมคคัลลานะ จนได้บรรลุธรรมเช่นเดียวกัน ฯ
 
๖.       พระเจ้าโกรัพยะตรัสถึงเหตุแห่งความเสื่อมที่จะให้คนออกบวชกะ     พระสาวกรูปใด ?  เหตุแห่งความเสื่อมนั้นได้แก่อะไรบ้าง ?
๖.       กะพระรัฏฐปาลเถระ ฯ  เหตุนั้นได้แก่ ๑. ความแก่ชรา ๒. ความเจ็บ  ๓. ความสิ้นโภคทรัพย์  ๔. ความสิ้นญาติ ฯ
๗.       ในวันที่พระมหาบุรุษประสูติ มีสหชาติที่เกิดพร้อมกันกี่อย่าง ?  
        อะไรบ้าง ?
๗.       มี ๗ อย่าง  คือ ๑. พระนางพิมพา  ๒. พระอานนท์  ๓. กาฬุทายีอมาตย์  ๔. ฉันนะอมาตย์  ๕. ม้ากัณฐกะ  ๖. ต้นมหาโพธิ์         ๗. ขุมทรัพย์ทั้ง ๔ ฯ
๘.       การทำสังคายนาครั้งที่ ๓  มีมูลเหตุจากอะไร ?   ใครเป็นผู้อุปถัมภ์ ?  
พระสงฆ์ผู้เข้าร่วมทำสังคายนามีจำนวนเท่าไร
?  ใครเป็นประธาน ?  
ใช้เวลานานเท่าไร
?
๘.       มีมูลเหตุจากพวกเดียรถีย์เป็นจำนวนมากปลอมบวชในพระพุทธศาสนา ฯ   พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ ฯ   มีจำนวน ๑,๐๐๐ รูป ฯ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ เป็นประธาน ฯ   ใช้เวลา ๙ เดือน ฯ 
๙.       จงระบุชื่อพระสาวกผู้ที่บวชด้วยเหตุต่อไปนี้
          ก. บวชด้วยศรัทธา
          ข. บวชเพราะจำใจ
          ค. บวชตามเพื่อน
          ง. บวชเพราะเห็นโทษของการครองเรือน
๙.       ก. บวชด้วยศรัทธา  คือ พระรัฐปาลเถระ
          ข. บวชเพราะจำใจ คือ พระนันทเถระ
          ค. บวชตามเพื่อน  คือ พระวิมล พระสุพาหุ พระปุณณชิ พระควัมปติ
          ง. บวชเพราะเห็นโทษของการครองเรือน  คือ พระมหากัสสปเถระ ฯ
๑๐.     ถูปารหบุคคล ได้แก่บุคคลเช่นไร ?  มีใครบ้าง ?
๑๐.     ได้แก่ บุคคลผู้ควรแก่การบรรจุอัฐิธาตุไว้ในสถูปเพื่อสักการบูชาด้วยความเลื่อมใส ฯ  มี
๑.     พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า  ๒. พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า
     ๓.  พระอรหันตสาวก                         ๔. พระเจ้าจักรพรรดิราช ฯ

***********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น